INTRODUCTION |
Jing: สวัสดีค่ะ |
Ja: Ja Here! Welcome back to ThaiPod101.com. This is Upper Intermediate Season 1, Lesson 9 - What’s The Thai way to think of untimely passing? |
Jing: ดิฉันจิงค่ะ |
Ja: In this lesson you'll learn how to use คิดซะว่า khít-sá-wâa to say "Think of it as..." |
Jing: This conversation takes place at the airport. |
Ja: This conversation is between Pong, Bow and Ning, who are co-workers for an airline. |
Jing: The speakers are close to each other, so they will be using informal Thai. |
Ja: Let’s listen to the conversation. |
DIALOGUE |
A: น้องโบว์จ๊ะ วันนี้หนิงดูเศร้า ๆ ไม่พูดไม่จากับใคร มีอะไรรึเปล่า โบว์พอจะรู้บ้างไหม |
B: พี่ป๋องไม่รู้เรื่องที่พ่อของหนิงเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชนเมื่อวานนี้ เหรอคะ โบว์รู้สึกสงสาร ยังไม่รู้จะเริ่มต้นปลอบใจหนิงเขายังไงดี |
A: จริงเหรอ พี่นี่แย่จริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปะโบว์เราไปแสดงความเสียใจ และช่วยปลอบให้หนิงหายเศร้ากันดีกว่า |
B: ค่ะ หนิงเราเสียใจด้วยนะเรื่องพ่อของเธอ อย่าเศร้าไปเลยนะ คิดซะว่าท่านคงมีบุญอยู่กับเราได้เท่านี้ |
A: พี่ก็เสียใจด้วยนะหนิง แล้วหนิงตั้งบำเพ็ญกุศลศพของพ่อที่ไหนจ๊ะ |
C: ขอบคุณมากนะคะ พี่ป๋อง เธอด้วยนะโบว์ หนิงจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพคุณพ่อที่วัดใกล้ๆบ้านค่ะ และจะสวดอภิธรรมศพเป็นเวลาสามวันก่อนเผาในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เชิญพี่ป๋องกับโบว์ด้วยนะคะ หนิงไม่ค่อยมีญาติที่ไหน |
B: ฉันกับพี่ป๋องจะไปช่วยที่วัดทุกวันเลยนะ หนิงไม่ต้องห่วง |
Ja: Now let's hear it with the English translation. |
A: น้องโบว์จ๊ะ วันนี้หนิงดูเศร้า ๆ ไม่พูดไม่จากับใคร มีอะไรรึเปล่า โบว์พอจะรู้บ้างไหม |
A: Hey, Bow, Ning looks sad today. She's not talking to anyone. Is something up? Do you know what happened? |
B: พี่ป๋องไม่รู้เรื่องที่พ่อของหนิงเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชนเมื่อวานนี้ เหรอคะ โบว์รู้สึกสงสาร ยังไม่รู้จะเริ่มต้นปลอบใจหนิงเขายังไงดี |
B: You didn't know that her dad died in a car accident yesterday? I feel so sorry for her. I don't know how to begin to comfort her. |
A: จริงเหรอ พี่นี่แย่จริงๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปะโบว์เราไปแสดงความเสียใจ และช่วยปลอบให้หนิงหายเศร้ากันดีกว่า |
A: Really? It's terrible of me not to know anything about this. I didn't know at all. Let's go give our condolences and help comfort her to ease her sadness. |
B: ค่ะ หนิงเราเสียใจด้วยนะเรื่องพ่อของเธอ อย่าเศร้าไปเลยนะ คิดซะว่าท่านคงมีบุญอยู่กับเราได้เท่านี้ |
B: OK. Ning, we're sorry about your father. Don't be too sad. Think that he just had enough merit to stay with us only this long. |
A: พี่ก็เสียใจด้วยนะหนิง แล้วหนิงตั้งบำเพ็ญกุศลศพของพ่อที่ไหนจ๊ะ |
A: I'm sorry too, Ning. Where are you going to have the funeral rites held? |
C: ขอบคุณมากนะคะ พี่ป๋อง เธอด้วยนะโบว์ หนิงจะตั้งบำเพ็ญกุศลศพคุณพ่อที่วัดใกล้ๆบ้านค่ะ และจะสวดอภิธรรมศพเป็นเวลาสามวันก่อนเผาในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ เชิญพี่ป๋องกับโบว์ด้วยนะคะ หนิงไม่ค่อยมีญาติที่ไหน |
C: Thank you very much, Pong. You too, Bow. I'm going to hold the funeral rites at a temple near my house. And we'll have the chanting of the higher doctrine for the deceased for three days before the cremation this Saturday. You are invited too. I don't have many relatives. |
B: ฉันกับพี่ป๋องจะไปช่วยที่วัดทุกวันเลยนะ หนิงไม่ต้องห่วง |
B: We'll go to help at the temple each day. You don't need to worry. |
POST CONVERSATION BANTER |
Ja: Hey Khru Jing, what do you think are the biggest differences between funerals in Thailand and in other countries? |
Jing: อย่างหนึ่งที่ต่างกันก็คือระยะเวลาค่ะ งานศพในประเทศไทยเราจะจัดเป็นระยะเวลา 3 วัน 5 วัน หรือ 7 วันค่ะ |
Ja: จริงเหรอคะ ทำไมต้องใช้เวลาหลายวันละคะ |
Jing: ที่ต้องใช้เวลานานก็เพราะเลข 3 วัน 5 วัน และ 7 วัน เป็นเลขคี่ เราเชื่อว่าจะไม่มีคนตายตามไปอีก |
NEXT!!!!!!!!!!!! |
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือเราต้องการให้ผู้ตายได้ฟังการสวดอภิธรรมจากพระสงค์ทุก ๆ เย็น คนไทยเชื่อว่าจะทำให้ผู้ตายได้ไปสวรรค์ค่ะ |
Ja: อืม... การสวดอภิธรรมคืออะไรเหรอคะ |
Jing: The Abhidharma, or อภิธรรม à-phí-thaam in Thai, is one of the collections of the Buddha’s teaching. Another thing that I think is different, is Thai people trying not to show sadness at a funeral. |
Ja: It’s hard not to feel sad when someone you know passes away. |
Jing: ใช่ค่ะ แต่เราเชื่อว่าผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วยังไม่ไปไหน ยังสามารถเห็นและได้ยินพวกเรา ดังนั้นเราจึงคิดว่าถ้าเราร้องไห้จะทำให้ผู้ตายเป็นห่วงและไม่ไปสวรรค์ |
NEXT!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! |
เราควรจะทำให้เขามีความสุขโดยการนำพระมาสวดและไม่แสดงความเศร้าเสียใจ |
Ja: I see. That’s an interesting way to look at things. โอเคค่ะ เรามาดูคำศัพท์กันนะคะ Okay, now let’s move on to the vocab. |
VOCAB LIST |
Ja: Let’s take a look at the vocabulary for this lesson. |
Jing: The first word we shall see is... |
Ja: เสียชีวิต sǐia-chii-wít [natural native speed] |
Jing: to die |
Ja: เสียชีวิต sǐia-chii-wít [slowly - broken down by syllable] เสียชีวิต sǐia-chii-wít [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: สงสาร sǒng-sǎan [natural native speed] |
Jing: to pity |
Ja: สงสาร sǒng-sǎan [slowly - broken down by syllable] สงสาร sǒng-sǎan [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: เริ่มต้น rôoem-dtôn [natural native speed] |
Jing: to begin, beginning |
Ja: เริ่มต้น rôoem-dtôn [slowly - broken down by syllable] เริ่มต้น rôoem-dtôn [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ปลอบใจ bpàawp-jai [natural native speed] |
Jing: to soothe, to console |
Ja: ปลอบใจ bpàawp-jai [slowly - broken down by syllable] ปลอบใจ bpàawp-jai [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: เท่านี้ thâo-níi [natural native speed] |
Jing: this much |
Ja: เท่านี้ thâo-níi [slowly - broken down by syllable] เท่านี้ thâo-níi [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: บำเพ็ญกุศล bam-phen-gù-sǒn [natural native speed] |
Jing: to make merit |
Ja: บำเพ็ญกุศล bam-phen-gù-sǒn [slowly - broken down by syllable] บำเพ็ญกุศล bam-phen-gù-sǒn [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ศพ sòp [natural native speed] |
Jing: body, corpse |
Ja: ศพ sòp [slowly - broken down by syllable] ศพ sòp [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ศพ sòp [natural native speed] |
Jing: Buddhist higher doctrine |
Ja: ศพ sòp [slowly - broken down by syllable] ศพ sòp [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: การสวด gaan-sùuat [natural native speed] |
Jing: chanting, praying |
Ja: การสวด gaan-sùuat [slowly - broken down by syllable] การสวด gaan-sùuat [natural native speed] |
Jing: And last... |
Ja: เผา phǎo [natural native speed] |
Jing: to burn |
Ja: เผา phǎo [slowly - broken down by syllable] เผา phǎo [natural native speed] |
KEY VOCAB AND PHRASES |
Ja: Let’s take a closer look at some of the words and phrases from this lesson. What’s first? |
Jing: แสดงความเสียใจ sà-daaeng khwaam sǐia-jai |
Ja: This phrase means “to show sympathy” or “to give condolences”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ |
Ja: แสดง sà-daaeng is the verb “to show”, and ความเสียใจ khwaam sǐia-jai is a noun that means “grief”, “sorrow”, or “regret”. So a more literal translation of the phrase might be “to show grief” or “to display sorrow”. |
Jing: ใช่ค่ะ แสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น |
Ja: ครูจิงช่วยอ่านอีกครั้งได้ไหมคะ |
Jing: แสดงความเสียใจ sà-daaeng khwaam sǐia-jai |
Ja: โอเคค่ะ แล้วต่อไปละคะ |
Jing: เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชน sǐia chii-wít dûuai ù-bàt-dtì-hèet rót chon |
Ja: This phrase means “to die in a car crash”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ คำว่า เสียชีวิต เป็นคำสุภาพหมายความว่า “to die”. |
Ja: เสียชีวิต sǐia chii- wít literally means “to lose life”, but it’s used similarly to the English phrase “to pass away”. ด้วย dûuai means “by” or “because of”, and อุบัติเหตุรถชน ù-bàt-dtì-hèet rót chon means “auto accident”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ อุบัติเหตุ หมายความว่า “accident” และคำว่า รถชน หมายความว่า “car crash”. |
Ja: OK, so once again, what is the whole phrase “to die in an auto accident”? |
Jing: เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุรถชน sǐia chii-wít dûuai ù-bàt-dtì-hèet rót chon |
Ja: คำต่อไปที่เราจะเรียนกันคืออะไรคะ |
Jing: สวดอภิธรรมศพ sùuat à-phí-thaam sòp |
Ja: This phrase means “to do the chanting of the Higher Doctrine for the dead”. |
Jing: ใชค่ะ We were just talking about อภิธรรม à-phí-thaam in the introduction. |
Ja: So อภิธรรม à-phí-thaam actually comes from the Sanskrit word Abhidharma, and it’s called the “higher doctrine” because it deals with a complicated philosophical analysis of all phenomena. |
Jing: ใช่ค่ะ อภิธรรม นั้นยากที่จะทำความเข้าใจแม้กระทั่งพระสงฆ์เองก็ตามนะคะ |
Ja: This phrase also had the word สวด sùuat, which means “chanting” or “praying”. And the last part of the phrase is the word ศพ sòp, which means “corpse”. |
Jing: ใช่ค่ะ คนที่ตายไปแล้วเราจะไม่เรียกเขาว่า “คน” หรือ “person” แต่จะเรียกว่า “ศพ” หมายความว่า “corpse” or “body”. |
Ja: เข้าใจใจแล้วค่ะ งั้นเรามาต่อกันที่ Grammar กันเลยนะคะ Okay, now onto the grammar. |
GRAMMAR POINT |
Ja: In this lesson, you’ll learn about using “คิดซะว่า khít-sá-wâa” to say "Think of it as..." |
Jing: คิด khít is the verb “to think”, and ว่า wâa is the particle “that”. |
Ja: So the phrase คิดซะว่า khít-sá-wâa can be used when you want to say “Just think that...” or “Think of it as...” It is used as a way to put something in perspective. |
Jing: ใช่เลยค่ะ เราใช้คำว่า “คิดซะว่า” เพื่อพูดให้กำลังใจคนที่กำลังคิดในด้านลบให้กลับมาคิดในด้านบวกค่ะ |
Ja: ฟังดูเป็นการทำความดีนะคะ เราจะใช้ประโยคนี้ยังไงล่ะคะครูจิง |
Jing: หลังคำว่า “คิดซะว่า” ต้องตามด้วย statement ค่ะ ตัวอย่างจากบทสนทนาก็คือ… |
“อย่าเศร้าไปเลยนะ คิดซะว่าท่านคงมีบุญอยู่กับเราได้เท่านี้” |
yàa sâo bpai looei ná. khít-sá-wâa thâan khong mii bun yùu gàp rao dâai thâo-níi. |
Ja: “Don’t be too sad. Think that he just had enough merit to stay with us for this long.” So in this example, the speaker is trying to cheer up Ning after her father passed away. How about we break up this sentence into smaller sections. The first one was... |
Jing: อย่าเศร้าไปเลยนะ |
Ja: “Don’t be too sad” |
Jing: คิดซะว่า |
Ja: “Think that” or “Think of it as” |
Jing: ท่านคงมีบุญ |
Ja: “He probably had merit” |
Jing: อยู่กับเราได้เท่านี้ |
Ja: “to be with us only this long.” So what are they really trying to say in this case? |
Jing: พวกเขาบอกให้หนิงคิดซะว่า ชีวิตของคุณพ่อสามารถอยู่กับหนิงได้เท่านี้ |
Ja: OK, so you mean because of his karma, his time on earth was up. |
Jing: ค่ะ อะไรประมาณนั้นแหละค่ะ |
Ja: Can you give us another example of how to use คิดซะว่า khít-sá-wâa in a sentence? |
Jing: ได้ค่ะ อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือ.... |
“คิดซะว่าฝนที่ตกในวันแต่งงานของคุณเป็นพรจากสวรรค์” |
khít-sá-wâa fǒn tîi dtòk nai wan dtàaeng-ngaan khǎawng khun bpen phaawn jàak sà-wǎn. |
Ja: “Think of the rain on your wedding day as a blessing from heaven.” Let’s look at this sentence in parts as well. |
Jing: คิดซะว่า |
Ja: “Think that” |
Jing: ฝนที่ตกในวันแต่งงานของคุณ |
Ja: “Rain falling on your wedding day...” |
Jing: เป็นพรจากสวรรค์ |
Ja: “...is a blessing from heaven.” So because we can’t control the weather, it’s better to think about a rainy day on your wedding as something positive instead of getting upset by it, right? |
Jing: ใช่ค่ะ ถ้าเราคิดดี เราก็จะมีความสุขค่ะ |
Outro
|
Ja: Well, that's all we've got time for! We hope you've enjoyed learning with us. Please be sure to check the lesson notes for further information. See you again soon. |
Jing: แล้วเจอกันใหม่ค่ะ |
Comments
Hide