INTRODUCTION |
Jing: สวัสดีค่ะ |
Ja: Ja Here! Welcome back to ThaiPod101.com. This is Upper Intermediate Season 1, Lesson 5 - So, did you finally try Thai Grilled Rat? |
Jing: ดิฉันจิงค่ะ |
Ja: In this lesson you'll learn how to use ในที่สุด nai-thîi-sùt and สุดท้าย sùt-tháai to say "finally". |
Jing: This conversation takes place at the airport. |
Ja: It’s between Pong who works as a pilot and Bow who works as a flight attendant. |
Jing: The speakers are close to each other, so they’ll be using informal Thai. |
Ja: Let’s listen to the conversation. |
DIALOGUE |
A: กลับบ้านเป็นยังไงบ้างคะพี่ป๋อง สนุกไหม พ่อกับแม่สบายดีรึเปล่า ขอโทษด้วยที่โบว์ไม่ว่างไปเยี่ยมท่าน ติดงานจริงๆ |
B: พวกท่านสบายดีจ้ะ ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องที่โบว์ติดงานพวกท่านเข้าใจ พี่อธิบายให้ท่านฟังแล้ว ท่านบอกว่าเอาไว้คราวหน้าก็ได้ |
A: ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยดี พี่ก็ได้กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อกับแม่ พี่ควรจะมีความสุข แต่ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนี้ละคะ |
B: ทุกอย่างดีจ้ะ แต่ระหว่างทางที่พี่ขับรถไปพี่หิวมาก แต่หาร้านอาหารไม่ได้เลย มีแต่ร้านขายหนูข้างทาง พี่พยายามอดทนและขับรถต่อไป หวังว่าจะเจอร้านอาหาร แต่สุดท้ายก็ไม่มี ในที่สุดพี่เลยต้องตัดสินใจซื้อหนูข้างทางกิน ทั้งๆที่พี่เกลียดและคิดมาตลอดว่าหนูสกปรก |
A: ไม่สกปรกหรอกค่ะ เพราะหนูที่เขาขายข้างทาง เป็นหนูในนาข้าว มันคอยกัดกินต้นข้าวเป็นอาหาร ชาวนาเลยต้องกำจัดและสร้างมูลค่าด้วยการนำมาย่างขาย |
B: อ้าวเหรอ อย่างนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย พี่ก็คิดว่าเป็นหนูที่อยู่ตามท่อระบายน้ำเหมือนในกรุงเทพซะอีก เลยคิดว่าสกปรก |
Ja: Now let's hear it with the English translation. |
A: กลับบ้านเป็นยังไงบ้างคะพี่ป๋อง สนุกไหม พ่อกับแม่สบายดีรึเปล่า ขอโทษด้วยที่โบว์ไม่ว่างไปเยี่ยมท่าน ติดงานจริงๆ |
A: How was the trip back home? Was it fun? How are your parents? I'm sorry that I wasn't free to visit them. I was stuck working. |
B: พวกท่านสบายดีจ้ะ ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องที่โบว์ติดงานพวกท่านเข้าใจ พี่อธิบายให้ท่านฟังแล้ว ท่านบอกว่าเอาไว้คราวหน้าก็ได้ |
B: They're fine. Don't worry. They understand that you were busy working. I explained to them. They said you can save it for the next time. |
A: ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยดี พี่ก็ได้กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อกับแม่ พี่ควรจะมีความสุข แต่ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนี้ละคะ |
A: Everything sounds OK. You got to go home and visit your parents. You should be happy. But why are you pouting? |
B: ทุกอย่างดีจ้ะ แต่ระหว่างทางที่พี่ขับรถไปพี่หิวมาก แต่หาร้านอาหารไม่ได้เลย มีแต่ร้านขายหนูข้างทาง พี่พยายามอดทนและขับรถต่อไป หวังว่าจะเจอร้านอาหาร แต่สุดท้ายก็ไม่มี ในที่สุดพี่เลยต้องตัดสินใจซื้อหนูข้างทางกิน ทั้งๆที่พี่เกลียดและคิดมาตลอดว่าหนูสกปรก |
B: Everything is fine. But on the way driving, I was really hungry, but I couldn't see any restaurants. There were only shops selling rats on the side of the road. I tried to endure and keep driving. I was hoping I'd see a restaurant. But in the end there weren't any. Finally, I had to decide to buy a rat from the roadside to eat. I hate them and always thought rats are dirty. |
A: ไม่สกปรกหรอกค่ะ เพราะหนูที่เขาขายข้างทาง เป็นหนูในนาข้าว มันคอยกัดกินต้นข้าวเป็นอาหาร ชาวนาเลยต้องกำจัดและสร้างมูลค่าด้วยการนำมาย่างขาย |
A: They're not dirty. The rats that they sell by the roadside are rats that live in the rice fields. They eat the rice stalks. So the farmers have to get rid of them, and they get some value by taking them to grill and sell. |
B: อ้าวเหรอ อย่างนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย พี่ก็คิดว่าเป็นหนูที่อยู่ตามท่อระบายน้ำเหมือนในกรุงเทพซะอีก เลยคิดว่าสกปรก |
B: Oh, really? I feel a little better now. I thought they were rats that live in the sewers like in Bangkok. So I thought they were dirty! |
POST CONVERSATION BANTER |
Ja: Hey Khru Jing, do people really eat rats in Thailand? |
Jing: Sure, but you don’t have to worry about getting some mystery meat in your Thai green curry. จริงๆแล้วเนื้อของหนูมีราคาแพงกว่าเหนือไก่และเนื้อหมู |
Ja: Are you serious? Why does it cost so much? |
Jing: เพราะรสชาติดีและกำลังเป็นที่นิยมกันมากขึ้น เมื่อก่อนมีแค่ชาวนาและคนจนตามชนบทต่างๆที่จับหนูมากิน แต่เดี๋ยวนี้เริ่มมีคนนำมาขายริมทางให้กับรถที่ผ่านไปมา คุณอยากจะลองชิมบ้างไหมคะครูจ๋า |
Ja: Well, I’ll try almost anything at least once. But I think I would just have a hard time getting myself to bite into a grilled rat. |
Jing: โธ่ อย่างนั้นคุณก็ไม่รู้ซิคะว่ามันอร่อยขนาดไหน |
Ja: That’s fine. In this case, I don’t mind being left out. โอเค เรามาดูคำศัพท์กันดีกว่าค่้ะ. Okay, now let’s move on to the vocab. |
VOCAB LIST |
Ja: Let’s take a look at the vocabulary for this lesson. |
Jing: The first word we shall see is... |
Ja: ท่อระบายน้ำ thâaw-rá-baai-náam [natural native speed] |
Jing: sewer, ditch, drain |
Ja: ท่อระบายน้ำ thâaw-rá-baai-náam [slowly - broken down by syllable] ท่อระบายน้ำ thâaw-rá-baai-náam [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ห่วง hùuang [natural native speed] |
Jing: to worry |
Ja: ห่วง hùuang [slowly - broken down by syllable] ห่วง hùuang [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: อธิบาย à-thí-baai [natural native speed] |
Jing: to explain, to describe |
Ja: อธิบาย à-thí-baai [slowly - broken down by syllable] อธิบาย à-thí-baai [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: เรียบร้อย rîiap-ráawy [natural native speed] |
Jing: proper, tidy, in order, polite |
Ja: เรียบร้อย rîiap-ráawy [slowly - broken down by syllable] เรียบร้อย rîiap-ráawy [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: หน้าบึ้ง nâa-bûeng [natural native speed] |
Jing: to make a face |
Ja: หน้าบึ้ง nâa-bûeng [slowly - broken down by syllable] หน้าบึ้ง nâa-bûeng [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ข้างทาง khâang-thaang [natural native speed] |
Jing: roadside |
Ja: ข้างทาง khâang-thaang [slowly - broken down by syllable] ข้างทาง khâang-thaang [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: อดทน òt-thon [natural native speed] |
Jing: to endure, to tolerate |
Ja: อดทน òt-thon [slowly - broken down by syllable] อดทน òt-thon [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: อดทน òt-thon [natural native speed] |
Jing: finally, lastly |
Ja: อดทน òt-thon [slowly - broken down by syllable] อดทน òt-thon [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ตัดสินใจ dtàt-sǐn-jai [natural native speed] |
Jing: to decide |
Ja: ตัดสินใจ dtàt-sǐn-jai [slowly - broken down by syllable] ตัดสินใจ dtàt-sǐn-jai [natural native speed] |
Jing: And last... |
Ja: สกปรก sòk-gà-bpròk [natural native speed] |
Jing: dirty, to be dirty |
Ja: สกปรก sòk-gà-bpròk [slowly - broken down by syllable] สกปรก sòk-gà-bpròk [natural native speed] |
KEY VOCAB AND PHRASES |
Ja: Let’s take a closer look at some of the words and phrases from this lesson. What’s first? |
Jing: ระหว่างทาง rá-wàang thaang |
Ja: This phrase means “on the way”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ |
Ja: ระหว่าง rá-wàang means “between”, and ทาง thaang is “way” or “path”. |
Jing: เราจะใช้คำว่า ระหว่างทาง ขึ้นต้นประโยค ตามตัวอย่างในบทสนทนาก็คือ |
แต่ระหว่างทางที่พี่ขับรถไปพี่หิวมาก |
dtàae rá-wàang thaang thîi phîi khàp rót bpai phîi hǐu mâak. |
Ja: “But in the middle of the drive I got very hungry.” |
เอาละ แล้วกลุ่มคำต่อไปละคะครูจิง |
Jing: ต่อไป dtàaw-bpai |
Ja: This is an adverb meaning “continually”, “next”, or “later”. When it appears directly after a verb, it means that the action is continued. |
Jing: ถูกต้องค่ะ ดังตัวอย่างประโยคที่เรามีในบทสนทนาว่า… |
พี่พยายามอดทนและขับรถต่อไป |
phîi phá-yaa-yaam òt-thon láe khàp rót dtàaw-bpai. |
Ja: “I tried to endure and continue driving.” So in this example, what were the key words? |
Jing: ขับรถต่อไป khàp rót dtàaw-bpai |
Ja: And that meant “to continue driving”. โอเค แล้วกลุ่มคำต่อไปละคะ |
Jing: กินต้นข้าวเป็นอาหาร gin dtôn-khâao bpen aa-hǎan |
Ja: This phrase means “to eat rice stalks as food”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ จุดสำคัญตรงนี้ก็คือ the pattern… |
Verb + Object 1 + เป็น bpen + Object 2 |
Ja: So when we use this pattern, it tells us that the action is done using the first object in such a way that it is identified with the second object. |
Jing: ถูกต้องค่ะ In this case, the rice stalks, or ต้นข้าว dtôn-khâao, become identified as food, or อาหาร aa-hǎan. |
Ja: And why are they identified as food? |
Jing: เพราะหนูกิน So กิน gin is the verb. |
Ja: เอาละค่ะ ครูจิงช่วยอ่านทั้งประโยคอีกครั้งได้ไหมคะ |
Jing: กินต้นข้าวเป็นอาหาร gin dtôn-khâao bpen aa-hǎan |
Ja: “To eat rice stalks as food.” Can we use this same pattern with other verbs? |
Jing: มีแน่นอนค่ะ ประโยคนี้เป็นไงคะ..... |
เด็กผู้ชายคนนั้นใช้ชามเป็นหมวก |
dèk phûu-chaai khon nán chái chaam bpen mùuak. |
Ja: “That boy uses a bowl as a hat.” |
Jing: ฉันรู้ว่าประโยคนี้อาจฟังดูตลกไปสักหน่อย แต่ยังไงกลุ่มคำสำคัญของเราก็คือ… |
ใช้ชามเป็นหมวก chái chaam bpen mùuak |
Ja: “to use a bowl as a hat”. โอเคค่ะ เรามาต่อกันที่ Grammar กันดีไหมคะ Okay, now onto the grammar. |
GRAMMAR POINT |
Ja: In this lesson, you’ll learn about using ในที่สุด nai-thîi-sùt and สุดท้าย sùt-tháai to say "finally". |
Jing: มาดูกลุ่มคำแรกของเรา คำว่า “ในที่สุด” |
Ja: ในที่สุด nai-thîi-sùt is an adverb that means “finally”, “eventually”, “in the end”, or “at last”. This phrase will usually be used as a preposition, which comes at the beginning of a sentence. |
Jing: ถูกต้องค่ะ ข้างล่างนี้ตัวอย่างหนึ่งที่มาจากจากบทสนทนาของเรา… |
ในที่สุดพี่เลยต้องตัดสินใจซื้อหนูข้างทางกิน |
nai-thîi-sùt phîi looei dtâwng dtàt-sǐn-jai súue nǔu khâang-thaang gin. |
Ja: “In the end, I had to decide to buy rats from the roadside to eat.” |
Jing: เห็นไหมคะ ง่ายนิดเดียวเอง เพียงแค่ใส่คำว่า ในที่สุด ขึ้นต้นประโยคเพื่อกล่าวถึง “finally” or “in the end”. |
Ja: ประโยคอื่นละคะ |
Jing: สุดท้าย sùt-tháai. เป็น adjective แปลว่า “final”, “last”, or “ultimate”. และสามารถเป็น Adverb แปลว่า “lastly” or “finally”. |
Ja: I see. When used as an adverb, สุดท้าย sùt-tháai can go to the front of a sentence just like ในที่สุด nai-thîi-sùt. |
Jing: ถูกต้องค่ะ ตัวอย่างประโยคตัวอย่างหนึ่งในบทสนทนาก็คือ… |
แต่สุดท้ายก็ไม่มี |
dtàae sùt-tháai gâaw mâi mii. |
Ja: “But finally, there weren’t any.” Khru Jing, would you say that these two phrases are mostly interchangeable? |
Jing: ใช่ค่ะ คุณสามารถสลับตำแหน่งของคำได้ เช่นในประโยคสุดท้ายคือ… |
แต่ในที่สุดก็ไม่มี |
dtàae nai-thîi-sùt gâaw mâi mii. |
Ja: “But in the end, there weren’t any.” โอเค เรามาฝึกพูดกันหน่อยไหมคะ ทุกคนพูดตามครูจิงนะคะ “But in the end, there weren’t any.” |
Jing: แต่ในที่สุดก็ไม่มี |
dtàae nai-thîi-sùt gâaw mâi mii. |
Ja: (pause) And next. “But finally, there weren’t any.” |
Jing: แต่สุดท้ายก็ไม่มี |
dtàae sùt-tháai gâaw mâi mii. |
Ja: (pause) ดีมากค่ะ |
Jing: อืม...บทเรียนนี้ก็ใกล้จะจบแล้ว ในที่สุดครูจ๋าตัดสินใจจะลองกินหนูแล้วใช่ไหม |
Ja: “In the end, did I decide to try eating rat”? Um, no Khru Jing. I don’t think you’ll get me to change my mind about this. |
Jing: Well, that's all we've got time for! |
Ja: We hope you've enjoyed learning with us. Please be sure to check the lesson notes for further information. See you again soon. |
Jing: แล้วเจอกันใหม่ |
Comments
Hide