INTRODUCTION |
Jing: สวัสดีค่ะ |
Ja: Hi everyone! Ja Here! Welcome back to ThaiPod101.com. This is Upper Intermediate Season 1, Lesson 23 - Would you really get fired for snacking on the job in Thailand? In this lesson you’ll learn about using ไล่ออก lâi-àawk and ลาออก laa-àawk meaning "to get fired" and "to resign". |
Jing: This conversation takes place at the airport. |
Ja: It’s between Pong and his girlfriend Bow. |
Jing: The speakers are close to each other, so they’ll be using informal Thai. |
DIALOGUE |
A: น้องชายพี่ถูกไล่ออกจากงาน เพราะนำมาม่าเข้าไปกินในสำนักงานเวลางาน เป็นเหตุผลที่โง่ที่สุดเท่าที่พี่เคยได้ยินมาเลย |
B: จริงเหรอคะ เป็นไปได้ยังไง ก็คนหิวจะให้ทำยังไง ถ้าออกไปทานข้างนอกก็หาว่าหนีงาน โบว์ว่าเจ้านายของเขาไม่มีเหตุผล ทำเกินกว่าเหตุ ไม่มีความยืดหยุ่นเลย จะเป็นผู้นำคนได้ยังไงแบบนี้ |
A: พี่ก็ว่าอย่างนั้น แต่พี่ช่วยอะไรไม่ได้ ความจริงพี่ก็เคยเห็นเขาบ่นบ่อย ๆ ว่าเจ้านายคนนี้แย่มาก ถ้าไม่ไล่ออกเขาก็จะลาออกเองอยู่แล้ว พี่ก็ได้แต่ขอพรให้เขาหางานใหม่ที่มีเจ้านายดีกว่านี้ น้องพี่เป็นคนเก่งคงหางานได้ไม่ยากหรอก ถ้าโบว์พอรู้ว่าที่ไหนเปิดรับสมัครงานก็ช่วยดูด้วยนะ |
B: ค่ะพี่ป๋อง โบว์มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่รู้จักเยอะ เดี๋ยวช่วยเองค่ะ ว่าแต่ว่าน้องชายพี่ป๋องเรียนจบอะไรทางด้านไหนมาล่ะคะ |
A: เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จ้ะ เรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีประสบการณ์ทำงานมาสามปี |
B: โอ้โหเก่งจังเลย เจ้านายของเขาควรจะเสียใจที่ไล่เขาออก และโบว์เชื่อว่าเขาจะหางานใหม่ได้ง่าย ๆ โบว์ช่วยได้แน่นอน ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ป๋อง บอกน้องชายพี่เตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานได้เลย |
Ja: Now let's hear it with the English translation. |
A: น้องชายพี่ถูกไล่ออกจากงาน เพราะนำมาม่าเข้าไปกินในสำนักงานเวลางาน เป็นเหตุผลที่โง่ที่สุดเท่าที่พี่เคยได้ยินมาเลย |
A: My younger brother was fired from his job because he brought instant noodles to eat in the office while he worked. It's the most stupid reason I've ever heard. |
B: จริงเหรอคะ เป็นไปได้ยังไง ก็คนหิวจะให้ทำยังไง ถ้าออกไปทานข้างนอกก็หาว่าหนีงาน โบว์ว่าเจ้านายของเขาไม่มีเหตุผล ทำเกินกว่าเหตุ ไม่มีความยืดหยุ่นเลย จะเป็นผู้นำคนได้ยังไงแบบนี้ |
B: Really? How is that possible? What are hungry people supposed to do? If you go out to eat outside you'll get accused of skipping work. I think his boss doesn't have a reason. He overreacted. If he doesn't have flexibility like this, how can he be a leader? |
A: พี่ก็ว่าอย่างนั้น แต่พี่ช่วยอะไรไม่ได้ ความจริงพี่ก็เคยเห็นเขาบ่นบ่อย ๆ ว่าเจ้านายคนนี้แย่มาก ถ้าไม่ไล่ออกเขาก็จะลาออกเองอยู่แล้ว พี่ก็ได้แต่ขอพรให้เขาหางานใหม่ที่มีเจ้านายดีกว่านี้ น้องพี่เป็นคนเก่งคงหางานได้ไม่ยากหรอก ถ้าโบว์พอรู้ว่าที่ไหนเปิดรับสมัครงานก็ช่วยดูด้วยนะ |
A: That's what I thought. But I can't help it. Actually, I've often heard him complain that his boss is really terrible. If he didn't get fired, he was going to resign by himself. I just hope he finds a new job with a better boss. He's a skilled person, so he should find work without difficulty. If you know of any place taking applications, you can help him look. |
B: ค่ะพี่ป๋อง โบว์มีเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่รู้จักเยอะ เดี๋ยวช่วยเองค่ะ ว่าแต่ว่าน้องชายพี่ป๋องเรียนจบอะไรทางด้านไหนมาล่ะคะ |
B: Sure, Pong. I have a lot of friends and acquaintances. I will help. Anyway, what did your brother graduate in, and in which field? |
A: เขาเรียนจบด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์จ้ะ เรียนจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีประสบการณ์ทำงานมาสามปี |
A: He graduated in Computer Engineering. He graduated with first class honors from Chulalongkorn University. He has three years of work experience. |
B: โอ้โหเก่งจังเลย เจ้านายของเขาควรจะเสียใจที่ไล่เขาออก และโบว์เชื่อว่าเขาจะหางานใหม่ได้ง่าย ๆ โบว์ช่วยได้แน่นอน ไม่ต้องห่วงค่ะพี่ป๋อง บอกน้องชายพี่เตรียมตัวไปสัมภาษณ์งานได้เลย |
B: Wow! He's really clever. His boss should be sorry that he fired him. I'm sure he'll be able to find a new job easily. I can help him for sure. Don't worry, Pong. Tell your brother to prepare himself for interviews. |
POST CONVERSATION BANTER |
Ja: Hey Khru Jing, I think it's probably best that Pong's brother finds a new job. |
Jing: Yes, his boss sounds unreasonable. |
Ja: I also think he wasn’t getting paid enough. |
Jing: ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะคะ |
Ja: Well, he must be poor if all he had to eat was instant noodles. |
Jing: อ๋อ ในประเทศไทยไม่ใช่แค่คนจนหรอกค่ะที่ทานมาม่า ทุกคนทานเพราะชอบมากกว่า คุณสามารถสั่งผัดมาม่าได้ตามร้านอาหารทั่วไปด้วยนะคะ |
Ja: จริงเหรอคะ |
Jing: ใช่ค่ะ สามารถสั่งผัดมาม่าได้ เป็นที่นิยมมากเลยค่ะ |
Ja: I see. But why do you call instant noodles มาม่า? |
Jing: อ๋อ เพราะ มาม่า เป็นชื่อบริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุด ทำให้เราเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกอย่างว่ามาม่า ถึงแม้จะเป็นบะหมี่จากบริษัทอื่นที่ไม่ใช่มาม่าก็ตามค่ะ |
Ja: Right, we do the same thing in English with Kleenex and Q-tips. โอเค เรามาดูคำศัพท์กันนะคะ |
VOCAB LIST |
Ja: Let’s take a look at the vocabulary for this lesson. |
Ja: The first word we shall see is... |
Jing: ไล่ออก lâi-àawk [natural native speed] |
Ja: to fire, to lay off |
Jing: ไล่ออก lâi-àawk [slowly - broken down by syllable] ไล่ออก lâi-àawk [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: ลาออก laa-àawk [natural native speed] |
Ja: to resign, to quit |
Jing: ลาออก laa-àawk [slowly - broken down by syllable] ลาออก laa-àawk [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: สำนักงาน sǎm-nák-ngaan [natural native speed] |
Ja: office |
Jing: สำนักงาน sǎm-nák-ngaan [slowly - broken down by syllable] สำนักงาน sǎm-nák-ngaan [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: เหตุผล hèet-phǒn [natural native speed] |
Ja: reason |
Jing: เหตุผล hèet-phǒn [slowly - broken down by syllable] เหตุผล hèet-phǒn [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: โง่ ngôo [natural native speed] |
Ja: to be stupid, to be foolish |
Jing: โง่ ngôo [slowly - broken down by syllable] โง่ ngôo [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: มาม่า maa-mâa [natural native speed] |
Ja: instant ramen noodles |
Jing: มาม่า maa-mâa [slowly - broken down by syllable] มาม่า maa-mâa [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [natural native speed] |
Ja: computer engineering |
Jing: วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [slowly - broken down by syllable] วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [natural native speed] |
Ja: first class honors |
Jing: วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [slowly - broken down by syllable] วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ wít-sà-wá-gaawn rom khaawm-phiu-dtôoe [natural native speed] |
Ja: Next |
Jing: เรียนจบ riian jòp [natural native speed] |
Ja: to graduate |
Jing: เรียนจบ riian jòp [slowly - broken down by syllable] เรียนจบ riian jòp [natural native speed] |
Ja: And last... |
Jing: สัมภาษณ์ sǎm-phâat [natural native speed] |
Ja: to interview |
Jing: สัมภาษณ์ sǎm-phâat [slowly - broken down by syllable] สัมภาษณ์ sǎm-phâat [natural native speed] |
KEY VOCAB AND PHRASES |
Ja: Let’s take a closer look at the usage of some of the words and phrases from this lesson. What’s first? |
Jing: เป็นไปได้ยังไง bpen bpai dâai yang-ngai |
Ja: This phrase means "how is it possible?" |
Jing: ถูกต้องค่ะ “เป็นไปได้ bpen bpai dâai” is the verb "to be possible", and “ยังไง yang-ngai” is a casual form of the question "how?" |
Ja: So we just put the two together and we get "How is it possible?" |
Jing: ใช่ค่ะ เป็นไปได้ยังไง |
Ja: OK, what's the next phrase? |
Jing: เตรียมตัวไปสัมภาษณ์งาน dtriiam dtuua bpai sǎm-phâat ngaan |
Ja: This phrase means "prepare yourself for job interviews". |
Jing: ถูกต้องค่ะ “เตรียม” เป็น verb หมายความว่า "to prepare". |
Ja: “ตัว dtuua” actually means "body", but when we say “เตรียมตัว dtriiam dtuua” it means "to prepare oneself", not just "prepare your body". |
Jing: ใช่ค่ะ You have to prepare your mind as well. Finally “สัมภาษณ์งาน sǎm-phâat ngaan” means "to interview for a job". |
Ja: สัมภาษณ์งาน is "job interview", but can we use the verb “สัมภาษณ์” in other situations? |
Jing: ได้อยู่แล้วค่ะ คุณสามารถใช้คำว่า “สัมภาษณ์” เป็น verb หมายความว่า "to interview" ในสถานการณ์ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้กับการสัมภาษณ์งานเท่านั้น |
Ja: OK, what's the next phrase? |
Jing: ทำเกินกว่าเหตุ tham gooen gwàa hèet |
Ja: This phrase means "to overreact". |
Jing: ถูกต้องค่ะ “ทำ” เป็น verb หมายความว่า "to do", “เกินกว่า” หมายความว่า "more excessive than", และ “เหตุ” เป็น noun หมายความว่า "cause". |
Ja: So the literal meaning is "to act more excessively than the cause". I'd say that's a pretty close definition of "overreacting". How do we say the whole phrase again in Thai? |
Jing: ทำเกินกว่าเหตุ |
Ja: เอาละค่ะ ตอนนี้เรามาดู grammar กันนะคะ Okay, now onto the grammar. |
GRAMMAR POINT |
Ja: In this lesson, you’ll learn about using “ไล่ออก lâi-àawk” and “ลาออก laa-àawk” meaning "to get fired" and "to resign". |
Jing: ใช่ค่ะ “ออก” เป็น verb หมายความว่า "to go out". |
Ja: You use it in the phrases "to get fired" and "to resign", because the person is leaving or exiting a certain position. How about we start with "to get fired" first. |
Jing: โอเคค่ะ “ไล่” สามารถใช้เพียงลำพัง เป็น verb หมายความว่า "to chase". |
Ja: So the literal meaning of “ไล่ออก lâi-àawk” is "to chase out". |
Jing: ถูกต้องค่ะ. It's like your boss chases you out of the office. |
Ja: What example of this did we have in the conversation? |
Jing: มีประโยคนี้ค่ะ.. |
น้องชายพี่ถูกไล่ออกจากงาน náawng-chaai phîi thùuk lâi-àawk jàak ngaan. |
Ja: "My younger brother was fired from his job". In this example, the verb “ถูก thùuk” is included to show the passive voice. |
Jing: ถูกต้องค่ะ You usually use the passive voice in Thai in negative situations only. |
Ja: And getting fired is definitely a negative situation. What about if you wanted to use “ไล่ออก” in the active voice? |
Jing: For that, the direct object should go between ไล่ lâi and ออก àawk. ตัวอย่างเช่น เราสามารถพูดว่า... |
หัวหน้าไล่น้องชายออกจากงาน |
hǔua-nâa lâi náawng-chaai àawk jàak ngaan. |
Ja: "The boss fired my brother from his job." So it is like we are using “ไล่” as the main verb, and we need an object to follow it. |
Jing: ใช่เลยค่ะ |
Ja: OK, now let's talk about "resigning" |
Jing: ค่ะ คำว่า “ลาออก” มาจาก verb “ลา” หมายความว่า "to leave" หรือ"to bid farewell". |
Ja: How was this one used in the conversation? |
Jing: มีประโยคที่ว่า... |
ถ้าไม่ไล่ออกเขาก็จะลาออกเองอยู่แล้ว |
thâa mâi lâi-àawk khǎo gâaw jà laa-àawk eeng yùu láaeo. |
Ja: "If he didn't get fired, he was going to resign on his own." So in this case, we don't need to put any object in the middle of the phrase. |
Jing: ใช่ค่ะ That's because when you resign or quit, you are just doing the action yourself. It's not an action that you do to somebody else. |
Ja: Ah yes, that makes a lot of sense. So to review, the two phrases once again are... |
Jing: ไล่ออก |
Ja: "to get fired" and... |
Jing: ลาออก |
Ja: "to resign" |
Outro
|
Jing: Well, that's all we've got time for! We hope you've enjoyed learning with us. Please be sure to check the lesson notes for further information. |
Ja: Thanks for listening. See you again soon. |
Jing: แล้วเจอกันใหม่ค่ะ |
Comments
Hide