INTRODUCTION |
Jing: สวัสดีค่ะ |
Ja: Ja Here! Welcome back to ThaiPod101.com. This is Upper Intermediate Season 1, Lesson 10 - Is your lucky Thai Buddha real or an imitation? |
Jing: ดิฉันจิงค่ะ |
Ja: In this lesson you'll learn how to use “ปลอม bplaawm” to talk about something "fake". |
Jing: This conversation takes place at a restaurant. |
Ja: It’s between Pong and Bow. |
Jing: The speakers are close to each other, so they’ll be using informal Thai. |
Ja: Let’s listen to the conversation. |
DIALOGUE |
A: ตุ๊กตาสวยจังเลย ตั้งแต่เด็กโบว์ชอบตุ๊กตามากจนทุกวันนี้ โบว์ยังเก็บสะสมตุ๊กตามากมาย จากทั้งพี่แล้วก็คนอื่น ๆ ให้ ซื้อเองบ้าง แล้วพี่ป๋องล่ะคะ มีอะไรเป็นของสะสม |
B: ตอนเด็ก ๆ พี่ไม่มีหรอกจ้ะ พี่เพิ่งเริ่มมีตอนอายุสิบแปดปี ตอนได้เครื่องรางชิ้นแรกในชีวิตจากคุณพ่อ หลังจากนั้นพี่ก็เริ่มสะสมมาตลอด ของส่วนใหญ่ที่สะสมจะเป็นพระเครื่อง |
A: พระเครื่องเหรอ เขาว่ากันว่ามีของปลอมมากมายเต็มไปหมด พี่จะแยกออกมั้ยคะว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม เพราะดูภายนอกแล้วก็เหมือนกัน |
B: พี่ใช้ความระมัดระวังมาก ใช้เวลาศึกษาประวัติความเป็นมาของทุกชิ้นก่อนเช่า ส่วนมากพี่จะเช่าต่อจากคนที่รู้จัก รับรองว่าไม่มีของปลอมแน่นอนจ้ะ |
A: เช่าเหรอ ทำไมต้องเช่าล่ะคะ ซื้อเลยไม่ได้เหรอ ถ้าพี่ป๋องไม่ซื้อแล้วจะสะสมได้ยังไง |
B: ฮ่า ๆ น้องโบว์ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช้คำว่าซื้อกับเครื่องราง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกชนิด เมื่อก่อนเขาให้กันฟรี ๆ ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของแต่ละบุคคล เขาใช้คำว่าเช่าจ้ะ |
Ja: Now let's hear it with the English translation. |
A: ตุ๊กตาสวยจังเลย ตั้งแต่เด็กโบว์ชอบตุ๊กตามากจนทุกวันนี้ โบว์ยังเก็บสะสมตุ๊กตามากมาย จากทั้งพี่แล้วก็คนอื่น ๆ ให้ ซื้อเองบ้าง แล้วพี่ป๋องล่ะคะ มีอะไรเป็นของสะสม |
A: Dolls are beautiful. Since I was a kid, up until today, I've loved dolls. I've collected dolls from you and others who gave them to me. I've bought some myself. And what about you? Is there anything you collect? |
B: ตอนเด็ก ๆ พี่ไม่มีหรอกจ้ะ พี่เพิ่งเริ่มมีตอนอายุสิบแปดปี ตอนได้เครื่องรางชิ้นแรกในชีวิตจากคุณพ่อ หลังจากนั้นพี่ก็เริ่มสะสมมาตลอด ของส่วนใหญ่ที่สะสมจะเป็นพระเครื่อง |
B: When I was a child, there was nothing. I just started when I was eighteen years old, when I got the first amulet of my life from my father. After that, I started to collect them all the time. Most of the ones I collect are small Buddha amulets. |
A: พระเครื่องเหรอ เขาว่ากันว่ามีของปลอมมากมายเต็มไปหมด พี่จะแยกออกมั้ยคะว่าอันไหนของจริง อันไหนของปลอม เพราะดูภายนอกแล้วก็เหมือนกัน |
A: Buddha amulets? They say there are many fakes out there. How can you distinguish which ones are real and which are fake? Because they look the same on the outside. |
B: พี่ใช้ความระมัดระวังมาก ใช้เวลาศึกษาประวัติความเป็นมาของทุกชิ้นก่อนเช่า ส่วนมากพี่จะเช่าต่อจากคนที่รู้จัก รับรองว่าไม่มีของปลอมแน่นอนจ้ะ |
B: I use a lot of caution. I take time to study the history and background of each piece before I acquire it. Mostly, I keep renting from people I know. I assure you there are not any fakes. |
A: เช่าเหรอ ทำไมต้องเช่าล่ะคะ ซื้อเลยไม่ได้เหรอ ถ้าพี่ป๋องไม่ซื้อแล้วจะสะสมได้ยังไง |
A: You rent them? Why do you need to rent them? Can't you just buy them? If you aren't buying them, how can you collect them? |
B: ฮ่า ๆ น้องโบว์ไม่เข้าใจ เขาไม่ใช้คำว่าซื้อกับเครื่องราง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกชนิด เมื่อก่อนเขาให้กันฟรี ๆ ขึ้นอยู่กับความศรัทธาของแต่ละบุคคล เขาใช้คำว่าเช่าจ้ะ |
B: Ha ha. You don't understand. People don't use the word "buy" with amulets or any type of sacred object. In the old days, they were given out for free. It was a matter of the people's faith. People use the word "rent." |
POST CONVERSATION BANTER |
Ja: Hey Khru Jing, collecting amulets is serious business in Thailand, isn’t it? |
Jing: ใช่ค่ะ หลาย ๆ คนจริงจังมาก มีหนังสือและนิตยสารหลายเล่มเกี่ยวกับการสะสมเครื่องรางโดยเฉพาะ |
Ja: เครื่องรางพวกนั้นราคาแพงไหมคะ |
Jing: ก็ขึ้นอยู่กับว่าหายากขนาดไหน เพราะยิ่งหายากก็ยิ่งมีราคาแพงค่ะ แต่เครื่องรางบางอย่างเราก็สามารถได้ฟรีนะคะ |
Ja: Oh really? How can you get amulets for free? |
Jing: บางครั้งถ้าเราไปวัด ทำบุญ พระท่านก็จะมอบเครื่องรางที่ทางวัดจัดทำขึ้นให้ึ่ค่ะ |
Ja: Oh, I see. That’s nice. Is there any other place besides a temple to get a Buddha amulet without paying a lot of money? |
Jing: มีค่้ะ ต้องไปที่ตลาดพระข้างวัดมหาธาตุในกรุงเทพ มีคนขายพวกเครื่องรางต่าง ๆ เยอะมากบนทางเดินด้านนอกของวัด |
NEXT!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! |
เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาเครื่องรางเป็นของฝากค่ะ |
Ja: Wat Mahathat is near the Grand Palace isn’t it? |
Jing: ถูกต้องค่ะ You can go see the Grand Palace and then shop for the Buddha amulet afterwards. It’s just a short walk from there. |
Ja: Great. Thanks for that tip Khru Jing. โอเค เรามาดูคำศัพท์กันนะคะ Okay, now let’s move on to the vocab. |
VOCAB LIST |
Ja: Let’s take a look at the vocabulary for this lesson. |
Jing: The first word we shall see is... |
Ja: ตุ๊กตา dtúk-gà-dtaa [natural native speed] |
Jing: doll |
Ja: ตุ๊กตา dtúk-gà-dtaa [slowly - broken down by syllable] ตุ๊กตา dtúk-gà-dtaa [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ทุกวันนี้ thúk-wan-níi [natural native speed] |
Jing: nowadays |
Ja: ทุกวันนี้ thúk-wan-níi [slowly - broken down by syllable] ทุกวันนี้ thúk-wan-níi [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: สะสม sà-sǒm [natural native speed] |
Jing: to collect |
Ja: สะสม sà-sǒm [slowly - broken down by syllable] สะสม sà-sǒm [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: เครื่องราง khrûueang-raang [natural native speed] |
Jing: amulet |
Ja: เครื่องราง khrûueang-raang [slowly - broken down by syllable] เครื่องราง khrûueang-raang [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: พระเครื่อง phrea-khrûueang [natural native speed] |
Jing: small Buddha image |
Ja: พระเครื่อง phrea-khrûueang [slowly - broken down by syllable] พระเครื่อง phrea-khrûueang [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ของปลอม khǎawng-bplaawm [natural native speed] |
Jing: imitation goods, counterfeit |
Ja: ของปลอม khǎawng-bplaawm [slowly - broken down by syllable] ของปลอม khǎawng-bplaawm [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ประวัติ bprà-wàt [natural native speed] |
Jing: history, background |
Ja: ประวัติ bprà-wàt [slowly - broken down by syllable] ประวัติ bprà-wàt [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ประวัติ bprà-wàt [natural native speed] |
Jing: exterior |
Ja: ประวัติ bprà-wàt [slowly - broken down by syllable] ประวัติ bprà-wàt [natural native speed] |
Jing: Next |
Ja: ความระมัดระวัง khwaam-rá-mát-rá-wang [natural native speed] |
Jing: caution |
Ja: ความระมัดระวัง khwaam-rá-mát-rá-wang [slowly - broken down by syllable] ความระมัดระวัง khwaam-rá-mát-rá-wang [natural native speed] |
Jing: And last... |
Ja: ความเป็นมา khwaam-bpen-maa [natural native speed] |
Jing: background, history |
Ja: ความเป็นมา khwaam-bpen-maa [slowly - broken down by syllable] ความเป็นมา khwaam-bpen-maa [natural native speed] |
KEY VOCAB AND PHRASES |
Ja: Let’s take a closer look at some of the words and phrases from this lesson. What’s first? |
Jing: เขาว่ากันว่า khǎo wâa gan wâa |
Ja: This phrase means “They say that...”. |
Jing: ใช่ค่ะ |
Ja: The first “ว่า wâa” is the verb “to say”, and the second “ว่า wâa” acts as the particle “that”. So a word-for-word translation of the phrase would be “They say together that...”. |
Jing: เพื่อทำให้ประโยคสมบูรณ์เราต้องมี statement ตามหลังคำว่า “เขาว่ากันว่า” อย่างเช่น ตัวอย่างจากบทสนทนาของเราคือ… |
เขาว่ากันว่ามีของปลอมมากมายเต็มไปหมด |
khǎo wâa gan wâa mii khǎawng-bplaawm mâak-maai dtem bpai mòt. |
Ja: “They say that there are many fakes out there.” ค่ะ แล้วคำต่อไปคืออะไรคะ |
Jing: รับรองว่า ráp-raawng wâa |
Ja: This phrase means “to guarantee that...”. |
Jing: ถูกต้องค่ะ |
Ja: “รับรอง ráp-raawng” is a verb that can mean “to guarantee”, “to certify”, or “to assure”. And “ว่า wâa” is used as the connecting particle “that”. |
Jing: In a sentence, “รับรองว่า ráp-raawng wâa” will be followed by some statement to say what is being guaranteed or confirmed. ตัวอย่างจากบทสนทนาของเราคือ… |
“รับรองว่าไม่มีของปลอมแน่นอน” |
ráp-raawng wâa mâi mii khǎawng-bplaawm nâae-naawn. |
Ja: “I assure you there are not any fakes.” OK Listeners, can you think of how to say “I guarantee that the food will be delicious”? (pause) Khru Jing, what’s the answer? |
Jing: รับรองว่าอาหารจะอร่อย |
Ja: ทุกคนตอบถูกกันไหมคะ โอเคค่ะ คำสุดท้ายที่เราจะเรียนกันคือคำว่าอะไรคะครูจิง |
Jing: “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ sìng-sàk-sìt” |
Ja: This is a noun that means “sacred object”. It can refer to anything considered to be holy or anything that is thought to contain a higher power. |
Jing: ใช่ค่ะ ในประเทศไทยมีหลายอย่างที่เราเรียกว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” นะคะ |
Ja: ช่วยยกตัวอย่างได้ไหมคะ |
Jing: “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ sìng-sàk-sìt” can be an amulet. It can also be an image of Buddha or of a God or former king. Finally, it can be a sacred tree. |
Ja: Wow, it definitely sounds like Thai people have a lot of places to turn for help. |
Jing: ใช่ค่ะ เราไม่เลือกมากหรอกค่ะเวลาที่ขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ |
Ja: ตอนนี้เรามาดู Grammar กันนะคะ Okay, now onto the grammar. |
GRAMMAR POINT |
Ja: In this lesson, you’ll learn about using “ปลอม bplaawm” to talk about something "fake". |
Jing: “ปลอม bplaawm” is an adjective that means “fake” or “artificial”. |
Ja: And in Thai, we put adjectives after the nouns that they describe. |
Jing: ใช่ค่ะ ตัวอย่างเช่น “นาฬิกา” หมายความว่า “watch” ดังนั้น “นาฬิกาปลอม” ก็คือ “fake watch”. |
Ja: I see. So that would be like an imitated Rolex that someone is selling on the street. |
Jing: ใช่เลยค่ะ We also use “ปลอม bplaawm” a lot with the general noun “ของ khǎawng”, which means “thing”. |
Ja: OK, so then “ของปลอม khǎawng bplaawm” means “fake thing” or simply “a fake”. เราพอจะมีตัวอย่างคำว่า “ของปลอม” ในบทสนทนาของเราไหมคะครูจิง |
Jing: ใช่ค่ะ เรามีตัวอย่างตอนที่โบว์พูดว่า… |
“เขาว่ากันว่ามีของปลอมมากมายเต็มไปหมด” |
khǎo wâa gan wâa mii khǎawng bplaawm mâak-maai dtem bpai mòt. |
Ja: “They say that there are many fakes out there.” Is “ปลอม bplaawm” always used as an adjective? |
Jing: ไม่เสมอไปหรอกค่ะ คำว่า “ปลอม” อาจใช้เป็น verb หมายความว่า “forge”, “to copy”, or to “falsify”. |
Ja: I see. Can you think of an example of how to use it as a verb? |
Jing: มีสิคะ ลองฟังประโยคนี้ดูค่ะ… |
“เขาโดนจับเพราะปลอมลายเซ็นคนอื่น” |
khǎo doon jàp phráw bplaawm laai sen khon ùuen. |
Ja: “He got arrested because he forged somebody else’s signature.” |
Let’s look at this sentence in two parts. The first was... |
Jing: เขาโดนจับเพราะ |
Ja: “He got arrested because...” |
Jing: ปลอมลายเซ็นคนอื่น |
Ja: “...he forged the signature of another person.” |
Jing: มีอีกหนึ่งวิธีที่เราสามารถใช้คำว่า “ปลอม” นะคะ |
Ja: ยังไงคะ |
Jing: เราสามารถทำให้เป็น compound verb คือคำว่า “ปลอมแปลง” หมายความว่า |
“to counterfeit”. |
Ja: OK, can you think of an example using “ปลอมแปลง bplaawm-bplaaeng” in a sentence? |
Jing: ตำรวจกำลังหาคนที่ปลอมแปลงแบงค์ห้าร้อยบาท |
dtam-rùuat gam-lang hǎa khon thîi bplaawm-bplaaeng ngoen baaeng hâa-ráawy bàat. |
Ja: “The police are looking for the person who counterfeited 500 baht notes.” Alright, let’s look at this sentence in a few parts as well. The first was... |
Jing: ตำรวจกำลังหา |
Ja: “The police are looking for...” |
Jing: คนที่ปลอมแปลง |
Ja: “...the person who counterfeited...” |
Jing: แบงค์ห้าร้อยบาท |
Ja: “...500 baht notes.” |
Outro
|
Jing: Well, that's all we've got time for! |
Ja: We hope you've enjoyed learning with us. Please be sure to check the lesson notes for further information. See you again soon. |
Jing: แล้วเจอกันใหม่ค่ะ |
Comments
Hide